Main Menu

Recent posts

#41

Ducati XDiavel Dark นั้นเป็นรถจักรยานยนต์อีกรุ่นของดูคาติที่ให้ความรู้สึกถึงความดุดันเป็นอย่างมาก ทั้งจากสมรรถนะของเครื่องยนต์เเละในเรื่องของการดีไซน์ที่ใครเห็นก็ต้องชื่นชอบ

Ducati XDiavel Dark นั้นมีมิติตัวรถที่ลงตัว ด้วยการมีน้ำหนักรถเปล่าที่ 221 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักรถพร้อมวิ่งจะอยู่ที่ 247 กิโลกรัม ส่วนความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 755 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้ออยู่ที่ 1,615 มิลลิเมตร มุม Rake อยู่ที่ 30 องศา ส่วนระยะเทรลอยู่ที่ 130 มิลลิเมตร ถังบรรจุเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 18 ลิตร สามารถโดยสารได้ 2 คน

ในส่วนของสมรรถนะเครื่องยนต์ Ducati XDiavel Dark ก็ดุดันร้อนเเรงด้วยเครื่องยนต์รุ่น Testastretta DVT 1262, V2 - 90°, 4 valves per cylinder, Desmodromic Variable Timing, Dual Spark, liquid cooled ที่มีขุมกำลังขนาด 1,262 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 106 x 71.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่  13.0 : 1 เครื่องยนต์สามารถให้กำลัง 160 เเรงม้าที่ 9,500 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดอยู่ที่ 127 นิวตันเมตรที่ 5,000 รอบต่อนาที ส่วนระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Electronic fuel injection system, Øeq 56 mm elliptical throttle bodies with Ride-by-Wire system ส่วนระบบไอเสียจะเป็นเเบบ Stainless steel muffler, catalytic converter and 2 lambda probes มีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 speed ในขณะที่ Primary Drive เป็นเเบบ Straight cut gears, Ratio 1.84:1 มีอัตราที่ 1=37/15, 2=30/17, 3=27/20, 4=24/22, 5=23/24, 6=22/25 ส่วน Final Drive นั้นเป็นเเบบ Belt, front sprocket z28, rear sprocket z80 ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ Slipper and self-servo wet multiplate clutch with hydraulic control ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่สมรรถนะสูง

Ducati XDiavel Dark ได้รับการออกเเบบเฟรมมาใหม่ด้วยเทคโนโลยีลุดล้ำ ทำให้ได้เฟรมที่เเข็งเเกร่งอย่าง Tubular steel trellis frame ซึ่งในส่วนของระบบกันสะเทือนที่ทำงานร่วมกันจะมีระบบกันสะเทือนด้านหน้าเเบบ Adjustable Ø 50 mm usd fork with DLC treatment ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลังจะเป็นเเบบ Preload and rebound adjustable monoshock, remote reservoir, single-sided cast/trellis frame swingarm มาที่ระบบเบรก ด้านหน้าจะเป็นเเบบ 2 x Ø 320 mm semifloating discs, radial mounted Brembo monobloc 4-piston M50 callipers, PR16/19 radial master cylinder, Cornering ABS ส่วนด้านหลังเป็นเเบบ Ø 265 mm disc, Brembo 2-piston floating calliper, Cornering ABS ทางด้านของล้อนั้น ล้อหน้าจะเป็นเเบบ Light alloy, forged and machined, 3.5"x17" ในขณะที่ล้อหลังเป็นเเบบ Light alloy, forged and machined, 8.0" x 17" ส่วนยางนั้น ยางหน้าเป็นเเบบ Pirelli Diablo Rosso III 120/70 ZR17 ยางหลังจะเป็นเเบบ Pirelli Diablo Rosso III 240/45 ZR17หน้าจอเเสดงผลการขับขี่มีขนาด 3.5 นิ้วเเบบ TFT colour display and dedicated warning light display ระบบไฟทั้งโคมไฟหน้า-ท้าย เเละไฟเลี้ยวเป็นเเบบ Full LED lights ทั้งหมด เบาะหนังเเท้สวยงามกระชับสรีระในการขับขี่ ตัวบอดี้มีสีมาให้เพียงสีเดียวคือสีดำ Dark Stealth ที่ดุดันและเป็นเอกลักษณ์ของรถรุ่นนี้

สนราคาของ Ducati XDiavel Dark นั้นเคาะออกมาที่ 678,000 ถึง 849,000 บาท
#42

รถจักรยานยนต์ในตระกูล Multistrada ของดูคาติ รุ่นล่าสุดอีกรุ่นที่น่าสนใจก็คือ Ducati Multistrada V2 S ปี 2023 ที่มีสมรรถนะเครื่องยนต์ขั้นสุด รวมไปถึงดีไซน์ที่สวยงามเเละน่าขับขี่อย่างมาก

โครงสร้างตัวรถของ Ducati Multistrada V2 S ก็ได้รับการออกเเบบมาเป็นอย่างดีด้วยขนาดน้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่  202 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักรถพร้อมวิ่งจะอยู่ที่ 209 กิโลกรัม ส่วนความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 840 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้ออยู่ที่ 1,595 มิลลิเมตร ส่วนมุม Rake อยู่ที่ 25.75 องศา ส่วนระยะเทรลอยู่ที่ 120 มิลลิเมตร ถังบรรจุเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 22 ลิตร เบาะนั่งมี 2 ที่นั่ง

สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Ducati Multistrada V2 S ก็น่าสนใจเพราะมันมาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบ Ducati Testastretta 11°  โดยมีขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 937 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 83 x 53.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 14.0 : 1 เครื่องยนต์สามารถให้กำลัง 113 เเรงม้าที่ 10,500 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดอยู่ที่ 125 นิวตันเมตรที่ 8,750 รอบต่อนาที ส่วนระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นElectronic fuel injection system, Øeq 46 mm elliptical throttle bodies with Ride-by-Wire system ส่วนระบบไอเสียจะเป็นเเบบ Stainless steel muffler, double catalytic converter and 4 lambda probes มีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 speed with Ducati Quick Shift (DQS) up/down ในขณะที่ Primary Drive เป็นเเบบ Straight cut gears, ratio 1.8:1 มีอัตราที่ 1=40/13, 2=36/16, 3=34/19, 4=31/21, 5=29/23, 6=27/25 ส่วน Final Drive นั้นเป็นเเบบ Chain, front sprocket z16, rear sprocket z42 ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ 8-disc hydraulic clutch

ในส่วนของเฟรมนั้น Ducati Multistrada V2 S ได้รับการออกเเบบใหม่ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยในเเบบ Aluminum monocoque frame ส่วนระบบกันสะเทือนหน้าจะเป็น 48 mm diameter upside-down ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Öhlins TTX36 fully adjustable monoshock, electronic compression and rebound damping adjustment with Öhlins Smart EC 2.0 event-based mode, electronic preload adjustme ในส่วนของระบบเบรกจะมีระบบเบรกหน้าเเบบ 2 x Ø 330 mm semi-floating discs, radially mounted Brembo Stylema monobloc 4-piston 2-pad callipers, radial master cylinder, Cornering ABS ส่วนเบรกหลังจะเป็น Ø 265 mm disc, Brembo 2-piston floating calliper, Cornering ABS ส่วนล้อหน้าจะเป็นเเบบ Marchesini light alloy forged, 3.5" x 17" เเละล้อหลังเป็นเเบบ Marchesini light alloy forged, 6" x 17" โดยยางหน้าจะเป็นเเบบ Pirelli Diablo Rosso IV 120/70 ZR17 ส่วนยางหลังเป็นเเบบ Pirelli Diablo Rosso IV 190/55 ZR17 โคมไฟหน้าได้รับการออกเเบบใหม่เเละเป็นเเบบ full-LED headlight พร้อมกับมี LED Daytime ไฟเลี้ยวเป็นเเบบ Full LED lights ทั้งหมด หน้าจอเเสดงผลการขับขี่มีขนาด 4.3 นิ้ว เเบบ TFT colour พร้อมเชื่อมต่อระบบอื่นๆ อีกหลายระบบ ตัวบอดี้มีมาให้เลือก 2 สี คือสีเเดง เเละสีดำ

สนราคาขายของ Ducati Multistrada V2 S นั้นเคาะราคาออกมาที่ 689,000 บาท ถือว่าเป็นรถเเรงๆ อีกรุ่นจากดูคาติที่น่าจับตามอง
#43

Triumph STREET TWIN EC1 SPECIAL EDITION เป็นรถจักรยานยนต์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิคอีกรุ่นของไทรอัมพ์ที่บ่งบอกถึงการเป็นรถจักรยานยนต์ที่แสนจะมีชีวิตชีวาในย่าน East London โดยมาพร้อมกับธีมสีและกราฟิก EC1 ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เร้าใจในทุกการขับขี่

Triumph STREET TWIN EC1 SPECIAL EDITION มีขนาดความกว้างของแฮนด์รถอยู่ที่ 780 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,110 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 765 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,450 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 25.1 องศา ส่วนเทรลอยู่ที่ 102.4 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 12 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 217 กิโลกรัม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 4.1 ลิตร/100 กิโลเมตร

สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Triumph STREET TWIN EC1 SPECIAL EDITION
ถือว่าร้อนเเรงด้วยเครื่องยนต์ยนต์เเบบ ระบายความร้อนด้วยของเหลว, SOHC 8 วาล์ว, สูบคู่ขนาน องศาการจุดระเบิด 270 องศา มีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 900 ซีซี กระบอกสูบขนาด 84.6 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 80 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 11.0:1 สามารถให้กำลังที่ 65 เเรงม้าที่ 7,500 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 80 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบต่อนาที โดยมีระบบฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์หลายจุดตามลำดับ ส่วนระบบไอเสียจะเป็นเเบบท่อไอเสียสเตนเลสสตีล 2 เป็น 2 พร้อมท่อเก็บเสียงคู่ ไฟนอลไดรฟ์ จะเป็นเเบบโซ่  โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตช์แบบเปียกแบบหลายแผ่น พร้อมระบบช่วยผ่อนแรง ส่วนระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 5 สปีด ถือว่าคลาสสิคสุดๆ

เฟรมของ Triumph STREET TWIN EC1 SPECIAL EDITION เป็นเเบบโครงท่อเหล็กพร้อมแท่นวางคู่ ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบการประดิษฐ์สองด้าน ล้อหน้าจะเป็นเเบบอลูมิเนียมอัลลอยด์แบบหลายก้าน 18 x 2.75 นิ้ว ส่วนล้อหลังจะเป็นเเบบ อลูมิเนียมอัลลอยด์แบบหลายก้าน 17 x 4.25 นิ้ว โดยยางหน้ามีขนาด 100/9-18 ยางหลังมีขนาด 150/70 R17 โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบส้อม 47 มิลลิเมตร พร้อมตลับ โดยที่ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ RSU คู่พร้อมการปรับพรีโหลด  ส่วนเบรกหน้าจะเป็นเเบบจานลอยเดี่ยวØ310 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Brembo 4 ลูกสูบคงที่, ABS ในขณะที่เบรกหลังเป็นเเบบ จานเดี่ยว 255 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Nissin 2 ลูกสูบลอยพร้อม ABS โดยที่แผงหน้าปัด เป็นเเบบแผงหน้าปัด LCD แบบมัลติฟังก์ชั่นพร้อมมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อก ไฟหน้าขนาดใหญ่ทรงกลม 1 ดวง เบาะนั่งเดี่ยวยาวจำนวน 2 ที่นั่ง ส่วนตัวบอดี้นั้นเป็นเทา ให้ความรู้สึกดุดัน สวยงามเป็นอย่างยิ่ง

สนราคาของ Triumph STREET TWIN EC1 SPECIAL EDITION นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 419,000 บาท เรียกว่าเป็นราคาสุดคุ้มจริงๆ
#44

Triumph New Scrambler 1200 XC คือรถจักรยานยนต์อเนกประสงค์อย่างแท้จริงรุ่นแรกในวงการ Scrambler 1200 ที่มีขีดความสามารถแบบสมัยใหม่ที่โดดเด่น พร้อมไปกับคุณในทุกสภาพถนน อีกทั้งยังสามารถบุกตะลุยบนทางวิบากได้อย่างมั่นใจและมีสไตล์ตามเเบบฉบับรถจักรยานยนต์ของไทรอัมพ์

Triumph New Scrambler 1200 XC มีความกว้างของแฮนด์รถอยู่ที่ 840 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,200 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 840 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,530 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 25.8 องศา ส่วนเทรลอยู่ที่ 121 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 16 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 205 กิโลกรัม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 4.9 ลิตร/100 กิโลเมตร
 
สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Triumph New Scrambler 1200 XC ก็เเรงไม่เบาด้วยการพกพาเครื่องยนต์ในเเบบสูบคู่ขนานแบบ SOHC 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยของเหลว องศาจุดระเบิดเยื้องกัน 270 องศา ที่มีขุมพลังขนาดใหญ่ 1,200 ซีซี กระบอกสูบขนาด 97.6 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 80 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 11.0:1 สามารถให้กำลังที่ 90 เเรงม้าที่ 7,400 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 110 นิวตันเมตรที่ 3,950 รอบต่อนาที โดยมีระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงหลายจุดเป็นลำดับแบบอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนระบบท่อไอเสียเป็นเเบบท่อไอเสียคู่ยกสูงเข้า 2 ออก 2 ผิวปัดเงา พร้อมท่อเก็บเสียงคู่ ทางด้านของไฟนอลไดรฟ์จะเป็นเเบบระบบโซ่ X ring โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตซ์เปียกผ่อนแรงแบบหลายแผ่น ทางด้านระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 6 สปีด

Triumph New Scrambler 1200 XC ได้รับการออกเเบบเฟรมมาเป็นอย่างดีในเเบบโครงเหล็กคู่ เสริมเปลอะลูมิเนียม ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบแขนคู่อะลูมิเนียม โดยที่ล้อหน้าเป็นเเบบวงล้ออะลูมิเนียมซี่ลวด 36 ก้านแบบไร้ยางใน ขนาด 21 x 2.15 นิ้ว ส่วนล้อหลังเป็นเเบบ วงล้ออะลูมิเนียมซี่ลวด 32 ก้านแบบไร้ยางใน ขนาด 17 x 4.25 นิ้ว ส่วนยางหน้ามีขนาด 90/90-21 ยางหลังมีขนาด 150/70 R17 โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบ โช้คหัวกลับ Showa ขนาด 45 มิลลิเมตร ระยะยุบตัว 200 มิลลิเมตร ปรับตั้งได้สมบูรณ์  ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ โช้ค Ohlins คู่พร้อมกระบอกสำรองน้ำมัน ปรับตั้งได้สมบูรณ์ ระยะยุบตัวล้อหลัง 200 มิลลิเมตร โดยที่ระบบเบรกนั้นเบรกหน้าจะเป็นเเบบจานเบรกคู่ Brembo ขนาด 320 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์เบรกโมโนบลอค Brembo M50 สี่สูบแบบเรเดียล และระบบ ABS ส่วนเบรกหลังเป็นเเบบจานเบรกเดี่ยวขนาด 255 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์แบบลอยตัว สองลูกสูบจาก Brembo และระบบ ABS โดยมีหน้าจอเเสดงผลการขับขี่เป็นเเบบแผงหน้าปัดมัลติฟังก์ชั่น TFT แสดงความเร็วและความเร็วรอบแบบดิจิตัล มาตรวัดระยะทาง บ่งบอกตำแหน่งเกียร์ เกจน้ำมันเชื้อเพลิง โคมไฟหน้าทรงกลมดวงใหญ่ 1 ดวง พร้อมไฟเลี้ยว เบาะนั่งยาวจำนวน 2 ที่นั่ง ตัวบอดี้มีสีให้เลือกกัน 3 เฉดสีคือสีดำ, สีเทาคาดดำเเละสีฟ้าคาดดำ

โดยราคาขาย Triumph New Scrambler 1200 XC นั้นเคาะออกมาอยู่ที่เรท 632,000 บาท เรียกว่าเร้าใจทั้งสมรรถนะเเละราคาเลยทีเดียว
#45

รถจักรยานยนต์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิคอีกรุ่นที่ ไทรอัมพ์ ภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งคงหนีไม่พ้น Triumph BONNEVILLE T100 ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ของรถจักรยานยนต์ในตำนานไว้อย่างครบถ้วน เพื่อสร้างสรรค์ให้ T100 เป็นรถที่สวยงามและยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ทั้งในด้านสมรรถนะ และขีดความสามารถอันทันสมัย

Triumph BONNEVILLE T100 มีโครงสร้างตัวรถที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยขนาดความกว้างของแฮนด์รถอยู่ที่ 780 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,110 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 790 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,450 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 25.5 องศา ส่วนเทรลอยู่ที่ 104 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 14.5 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 229 กิโลกรัม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 4.1 ลิตร/100 กิโลเมตร

สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Triumph BONNEVILLE T100 ถือว่าร้อนเเรงเป็นอย่างยิ่งด้วยเครื่องยนต์ยนต์เเบบ ระบายความร้อนด้วยของเหลว, SOHC 8 วาล์ว, สูบคู่ขนาน องศาการจุดระเบิด 270 องศา มีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 900 ซีซี กระบอกสูบขนาด 84.6 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 80 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 11.0:1 สามารถให้กำลังที่ 65 เเรงม้าที่ 7,400 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 80 นิวตันเมตรที่ 3,750 รอบต่อนาที โดยมีระบบฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์หลายจุดตามลำดับ ระบบท่อไอเสียสเตนเลสสตีล 2 เป็น 2 พร้อมท่อเก็บเสียงคู่ ไฟนอลไดรฟ์ จะเป็นเเบบโซ่  โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตช์แบบเปียกแบบหลายแผ่น พร้อมระบบช่วยผ่อนแรง ส่วนระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 5 สปีด

เฟรมของ Triumph BONNEVILLE T100 ได้รับการออกเเบบใหม่ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเเบบโครงท่อเหล็กพร้อมแท่นวางคู่ ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบการประดิษฐ์สองด้าน ล้อหน้าจะเป็นเเบบซี่เหล็ก 32 ซี่ 18 x 2.75 นิ้ว ส่วนล้อหลังจะเป็นเเบบ ซี่เหล็ก 32 ซี่ 17 x 4.25 นิ้ว โดยยางหน้ามีขนาด 100/90-18 ยางหลังมีขนาด 150/70 R17 โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบส้อมขนาด 41 มิลลิเมตร พร้อมตลับ โดยที่ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ RSU คู่พร้อมการปรับพรีโหลด ส่วนเบรกหน้าจะเป็นเเบบดิสก์ลอยเดี่ยวØ310 มิลลิมเมตร คาลิปเปอร์ Brembo 2 ลูกสูบแกน ABS ส่วนเบรกหลังเป็นเเบบจานเดี่ยว 255 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Nissin 2 ลูกสูบลอยพร้อม ABS โดยที่แผงหน้าปัด เป็นเเบบแผงหน้าปัด LCD มัลติฟังก์ชั่นแบบ Dual-display พร้อมมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อก ไฟหน้าขนาดใหญ่ทรงกลม 1 ดวง เบาะนั่งเดี่ยวยาวจำนวน 2 ที่นั่ง ส่วนตัวบอดี้นั้นมีด้วยกัน 3 เฉดสี ทั้งสีฟ้า-ขาว, สีดำ เเละสีเเดง-ขาว

ราคาขายของ Triumph BONNEVILLE T100 นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 462,000 บาท นับว่าเป็นอีกรุ่นของไทรอัมพ์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
#46

Harley-Davidson Nightster Special ปี 2023 คือรูปแบบใหม่ของความเร้าใจในการขับขี่ซิลลูเอทรุ่นคลาสิกอย่าง Sportster ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสกับความร้อนเเรงของสมรรถนะเครื่องยนต์ขั้นเทพเเละประสบการณ์ในการขับขี่ที่จะไม่มีวันลืมได้

ขนาดตัวรถ Harley-Davidson Nightster Special ปี 2023 นั้นก็น่าสนใจไม่น้อย เมื่อมันมีขนาดความยาว 2,265 มิลลิเมตร ส่วนทางด้านของระดับความสูงเบาะ ขณะไม่ได้บรรทุก อยู่ที่ 715 มิลลิเมตร ระยะใต้ท้องรถอยู่ที่ 120 มิลลิเมตร ส่วนระยะเยื้องของตะเกียบหน้าอยู่ที่ 30 ในขณะที่ส่วนท้ายมีขนาด 137 มิลลิเมตร ฐานล้อมีระยะ 1,545 มิลลิเมตร ยางล้อหน้าเป็นเเบบ 100/90-19 57H ส่วนยางล้อหลังเป็นเเบบ 150/80B16 77H โดยที่ยางจะเป็นยางไบแอสขอบดำ Dunlop� Harley-Davidson Series มีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 11.7 ลิตร ส่วนความจุน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรองอยู่ที่ 4.5 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักขณะขนส่งอยู่ที่ 216 กิโลกรัมเเละมีน้ำหนักพร้อมขับขี่อยู่ที่ 225 กิโลกรัม

สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Harley-Davidson Nightster Special ปี 2023 ก็ร้อนเเรงไม่เบา โดยมันมาพร้อมกับเครื่องยนต์รุ่น Revolution� Max 975T เป็นเครื่อง V-Twin แบบระบายความร้อนด้วยของเหลว ให้อัตราเร่งแรงในรอบต่ำ และแรงบิดคงที่อย่างต่อเนื่อง ที่มีขุมพลังขนาด 975 ซีซี มีความกว้างของกระบอกสูบ 97 มิลลิเมตร มีจังหวะขึ้นลงของลูกสูบที่ 66 มิลลิเมตร โดยมีอัตราส่วนการอัดที่ 12.0:1 มีระบบเชื้อเพลิงเป็นระบบช่องฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์แบบต่อเนื่อง (ESPFI) เเละมีท่อไอเสียแบบ 2-ออก-1 แรงบิดเครื่องยนต์อยู่ที่ 95 Nm มีแรงบิดเครื่องยนต์ (รอบต่อนาที) อยู่ที่ 5000 ทำให้มีกำลังแรงม้าที่ 90 HP / 67 kW @ 7500 rpm ส่วนมุมเลี้ยวขวาเเละซ้ายอยู่ที่ 32 องศา ส่วนวิธีทดสอบการประหยัดเชื้อเพลิงเป็นเเบบ EU 134/2014 ทำให้มีการประหยัดเชื้อเพลิงอยู่ที่ 5.5 ลิตร/100 กิโลเมตร โดยระบบขับเคลื่อนหลักเป็นเกียร์ 6 สปีด มีอัตราทด 49/89

Harley-Davidson Nightster Special ปี 2023 มาพร้อมกับเฟรมรุ่นใหม่ที่มีความเเข็งเเกร่ง ส่วนแชสซีนั้นมาพร้อมกับโช้คหน้าเเบบวาล์วแบบ Dual Bending ของ SHOWA� ขนาด 41 มม. ทริปเปิลแคลมป์ชุดตะเกียบอะลูมิเนียมทางด้านโช้คหลังจะเป็นเเบบโช้คอัพแบบคู่ติดตั้งภายนอกด้วยเทคโนโลยีอิมัลชันแบบต่อตรง (ไม่มีการเชื่อมโยง) พร้อมคอยล์สปริงและปลอกคอเกลียวสำหรับปรับพรีโหลด ล้อหน้าจะเป็นเเบบวงล้ออะลูมิเนียม สีเงิน ในขณะที่ล้อหลังเป็นเเบบล้ออะลูมิเนียม สีเงิน โดยที่ด้านหน้าจะมีจานเบรกเดี่ยวแบบลอย ติดตั้งตรงกลาง ส่วนด้านหลังจะเป็นจานเบรกแบบตัน โดยที่ล้อหน้าจะมีคาลิปเปอร์ 4 สูบ ติดตั้งบนแกน ส่วนล้อหลังจะมีคาลิเปอร์เบรกเเบบลูกสูบลอยแบบเดี่ยว โดยโคมไฟหน้ามีขนาดใหญ่สไตล์คลาสสิคเเละมีไฟหน้าแบบ LED ทั้งหมด, ไฟต่ำและไฟสูงมาพร้อมตำแหน่งไฟที่เป็นเอกลักษณ์, ไฟท้ายแบบ LED ทั้งหมด, สัญญาณไฟเลี้ยว LED ทรง Bullet หน้าจอแสดงผลมาตรวัดแบบแอนะล็อกทรงกลมขนาด 4 นิ้ว พร้อมด้วยมาตรต่างๆ มากมายครบครัน ตัวบอดี้มี 4 สีให้เลือกทั้งสีดำ VIVID BLACK, สีดำ Black Denim, สีน้ำเงิน Bright Billiard Blue แและสีเหลือง Industrial Yellow 

ส่วนราคาขายของ Harley-Davidson Nightster Special ปี 2023 ในประเทศไทยนั้นต้องรอทางฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ประเทศไทย ประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
#47

BMW K 1600 B เป็นรถจักรยานยนต์สไตล์แบ็กเกอร์ที่เรียบง่ายและหรูหราอย่างมากอีกรุ่นของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งมันพกพาพามาทั้งสมรรถนะเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่ดุดันเเละร้อนเเรง พร้อมรูปโฉมอันเป็นเอกลักษณ์ของรถจากค่ายดังเมืองเบียร์

มิติตัวรถของ BMW K 1600 B นั้นลงตัวตามสไตล์รถจักรยานยนต์เเนวทัวร์ริ่ง ด้วยการมีขนาดความยาวรวมกระเป๋าเดินทางอยู่ที่ 2,470 มิลลิเมตร ความสูงรวมกระจกบังลม 1,340-1,440 มิลลิเมตร ความกว้างรวมกระเป๋าเดินทาง 1,000 มิลลิเมตร ส่วนระดับความสูงของที่นั่งขณะไม่มีการบรรทุกอยู่ที่ 750 มิลลิเมตร ค่าความกว้างของช่วงขาขณะไม่มีการบรรทุกอยู่ที่ 1,760 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมัน 26.5 ลิตร ปริมาณน้ำมันสำรองประมาณ 4 ลิตร น้ำหนักรวมบรรทุกสูงสุดอยู่ที่ 560 กิโลกรัม โหลดเสริมอยู่ที่ 216 กิโลกรัม

BMW K 1600 B มาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบหกสูบแถวเรียงสี่จังหวะที่ระบายความร้อนด้วยน้ำมันเครื่อง/น้ำที่มีสี่วาล์วต่อสูบ ที่มีกระบอกสูบขนาด 72 มิลลิเมตร X 67.5 มิลลิเมตร ความจุของกระบอกสูบขนาด 1,649 ซีซี ให้กำลัง 160 แรงม้า ที่ 6,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 180 นิวตันเมตร ที่ 5,250 รอบต่อนาที ส่วนอัตรากำลังอัดอยู่ที่ 12.2:1 มีการเตรียมเชื้อเพลิงเป็นเเบบการฉีดเชื้อเพลิงเข้าท่อไอดีแบบอิเล็กทรอนิคส์ การจัดการเครื่องยนต์แบบดิจิตอล: ระบบการจัดการแบตเตอรี่แบบ BMS-O พร้อมชุดควบคุมการจ่ายก๊าซปีกผีเสื้อแรงเคลื่อนไฟฟ้า ส่วนการควบคุมการปล่อยไอเสียเป็นเเบบ เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยาเวียนแบบปิด 3 ทาง, มาตรฐานการปล่อยไอเสีย EU-5 โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง เเละ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมงเมื่อมีบันไดข้างเป็นอุปกรณ์เสริม เเละมีอัตราการบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 5.9 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร โดยประเภทน้ำมันที่ใช้จะเป็นเเบบ เชื้อเพลิงคุณภาพสูงไร้สารตะกั่ว (เอทานอลไม่เกิน 15 %, E15) RON 95 / 90 AKI ส่วนไดชาร์จเป็นเเบบ อัลเทอร์เนเตอร์ 700 วัตต์ เเละแบตเตอรี่ 12 โวลต์ / 16 แอมป์ชั่วโมง ไม่ต้องบำรุงรักษา ระบบคลัทช์เป็นเเบบแผ่นคลัตช์หลายแผ่นอาบน้ำมันพร้อมระบบเกียร์สับเปลี่ยนด้วยเฟืองขบหกสปีดที่มีรูสลักรูปก้นหอย พร้อมระบบขับเคลื่อนเเบบเพลาขับ

ในขณะที่ BMW K 1600 B มาพร้อมกับเฟรมที่เป็นเเบบเฟรมเชื่อมอะลูมิเนียมคอมโพสิตแบบรองรับเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนหน้าเเบบ BMW Motorrad Duolever, สปริงโช๊คอัพกลาง ส่วนระบบกันสะเทือนล้อหลังเป็นเเบบ สวิงแขนเดี่ยวอะลูมิเนียมหล่อพร้อม BMW Motorrad Paralever, สปริงโช๊คอัพกลาง โดยที่ระยะการเคลื่อนที่ของระบบกันสะเทือนหน้า/หลังอยู่ที่ 115 มิลลิเมตร / 125 มิลลิเมตร ระยะฐานล้ออยู่ที่ 1,618 มิลลิเมตร มุมแคสเตอร์อยู่ที่ 106.4 มิลลิเมตร มุมแฮนด์รถอยู่ที่ 62.2 องศา โดยล้อเป็นเเบบ ล้ออะลูมิเนียมหล่อ โดยขนาดล้อหน้าอยู่ที่ 3.50" x 17" ขนาดล้อหลังอยู่ที่ 6.00" x 17" โดยที่ขนาดยางล้อหน้าอยู่ที่ 120/70 ZR 17 ส่วนขนาดยางล้อหลังอยู่ที่ 190/55 ZR 17 ระบบเบรคล้อหน้าเป็นเเบบจานเบรกคู่, เส้นผ่านศูนย์กลาง 320 มิลลิเมตร, คาลิเปอร์แบบตายตัว 4 สูบ ส่วนระบบเบรคล้อหลังเป็นเเบบจานเบรกเดี่ยว, เส้นผ่านศูนย์กลาง 320 มิลลิเมตร คาลิเปอร์เบรกลอยตัว 2 สูบ ส่วนระบบ ABS เเบบ BMW Motorrad Integral ABS Pro (Part-integral หรือเบรกลิงก์, ปรับให้เหมาะสมกับตำแหน่งเอียง) ส่วนไฟหน้า LED เต็มดวงแบบใหม่ที่มาพร้อมกับระบบไฟหน้าปรับระดับอัตโนมัติให้แสงสว่างในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อความคล่องแคล่วที่มากขึ้นเมื่อเข้าโค้งและความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนจอเเสดงผลการขับขี่เป็นเเบบจอภาพสี TFT ขนาด 10.25" มีแผ่นปิดกระจกแบบด้านที่แข็งแรงเพื่อให้คุณอ่านได้สะดวกที่สุด พร้อมด้วยระบบเครื่องเสียง 2.0 เบาะนั่งหนังเเท้สองที่นั่งเเบบต่างระดับ เเละอุปกรณ์เสริมอื่นๆ อีกมากมาย ตัวบอดี้มีสีเดียวคือสี Option 719 Midnight ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง

สนราคา BMW K 1600 B นั้นเคาะราคาเริ่มต้นออกมาที่ 1,695,000 บาท
#48

ในบรรดารถเเนว Custom Bobber ของฮอนด้าเเล้วต้องนับว่า Honda REBEL500 เป็นอีกรุ่นที่เป็นที่รู้จักกันมาอย่างยาวนานเเละเป็นที่ทำนิยมกันในบรรดาผู้ที่ชื่นชอบรถสไตล์กันอย่างมาก

Honda REBEL500 มาพร้อมกับมิติตัวรถที่มีความน่าสนใจ โดยมันมีความกว้าง 822 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,206 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,093 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,490 มิลลิเมตร ส่วนระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 136 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะ 690 มิลลิเมตร ทางด้านของมุมคาสเตอร์/ระยะเทรล อยู่ที่ 28°/110 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีความจุ 11.2 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 190 กิโลกรัม เป็น Custom Bobber ขนาดกลางๆ ที่มีตัวรถใหญ่พอสมควร

ทางดูกันที่สมรรถนะของ Honda REBEL500 โดยมันมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 471 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์รุ่น PC56E- เเบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 จังหวะ DOHC จำนวน 2 สูบ  มีความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 67.0 x 66.8 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 10.7 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นเเบบ คลัตซ์เปียกแบบหลายแผ่นซ้อนกัน โดยมีระบบส่งกำลัง 6-speed  ที่ทำงานร่วมกับระบบเฟืองท้ายเเบบ โซ่ขับเคลื่อน โดยที่มี อัตราทดรอบ/เส้นรอบวงล้อ อยู่ที่ 2.029 / 2.667 ส่วนระบบเกียร์เป็นเเบบ 1st gear : 3.285 / 2nd gear : 2.105 / 3rd gear : 1.600 / 4th gear : 1.300 / 5th gear : 1.150 / 6th gear : 1.043  โดยระบบจุดระเบิดเป็น Fully digital transistorised เเละมีระบบการติดเครื่องยนต์เป็นเเบบ สตาร์ทโดยมอเตอร์ไฟฟ้า ต้องบอกเลยว่าเป็นรถอีกรุ่นที่มีเครื่องยนต์สมรรถนะสูงอีกรุ่นของฮอนด้า

Honda REBEL500 มาพร้อมกับเฟรมที่เเข็งเเกร่งตามเเบบฉบับของรถเเนว Custom Bobber โดยระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบ 41mm USD telescopic forks ส่วนระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Twin shock ในขณะที่ระบบห้ามล้อหน้าจะเป็นเเบบ ABS Hydraulic disc ส่วนระบบห้ามล้อหลังก็เป็นเเบบ ABS Hydraulic disc เช่นเดียวกัน โดยมีขนาดยางหน้า 130/90-16M/C 67H (Tubeless) ส่วนขนาดยางหลัง 150/80-16M/C 71H (Tubeless) หน้าปัดเเสดงข้อมูลการขับขี่เป็นทรงกลมขนาด 120 มิลลิเมตร เเบบ Full LCD ส่วนระบบไฟทั้งโคมไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟท้าย ไฟกรอบทะเบียน เป็นเเบบ Full LED โดยโคมไฟหน้ามีขนาดใหญ่ทรงกลมตามสไตล์ Custom Bobber ภายในมีหลอดไฟ 4 ดวง เบาะนั่งหนังเเท้สบายทุกการขับขี่ โดยตัวบอดี้นั้นมี 3 สีให้เลือกกันทั้ง สีเขียวเข้ม PEARL ORGANIC GREEN (GNB) ที่สวยงาม สีดำ MAT AXIS GRAY METALLIC (BLK) ที่ดูดุดัน เเละสีทูโทน MAT PEARL SUMMIT WHITE (W-B) เรียกว่าสวยงามทุกสี

ในส่วนราคาขายของ Honda REBEL500 นั้นมีการประกาศราคาขายออกมาที่ 223,800 บาท เรียกว่าเป้นราคาที่เร้าใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถสไตล์นี้

#49

ฮอนด้า เป็นอีกค่ายที่ส่งรถเข้าร่วมการเเข่งขันหลากหลายรายการเเละนำเทคโนโลยีจากสนามเเข่งมาสู่รถซุปเปอร์สปอร์ตที่จัดจำหน่ายในท้องตลาด โดย Honda CBR600RR ก็นับว่าเป็นรถอีกรุ่นที่สมรรถนะทรงพลังเเละตอบสนองการขับขี่ได้เป็นอย่างดี เเถมมีเทคโนโลยีล้ำสมัยอีกด้วย

สำหรับ Honda CBR600RR พกพามิติตัวรถที่ได้รับการออกเเบบมาเป็นอย่างดี โดยมันมีความกว้าง 685 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,030 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,140 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,375 มิลลิเมตร ส่วนระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 125 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะ 822 มิลลิเมตร ทางด้านของมุมคาสเตอร์/ระยะเทรล อยู่ที่ 24°05'/99 มิลลิเมตร มีความจุน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 18 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 195 กิโลกรัม

สมรรถนะของ Honda CBR600RR นั้นพกพาความเเรงมาเต็มพิกัดด้วยขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 599 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์ PC40E  เเบบ LiquidcooledDOHC Inline 4 cylinder ส่วนทางด้านของความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 67.0 x 42.5 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 12.2 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นเเบบ Wet, multiplate clutch โดยมีระบบส่งกำลัง 6-speed ที่ทำงานร่วมกับระบบเฟืองท้ายเเบบ Chain โดยที่มี อัตราทดรอบ/เส้นรอบวงล้อ อยู่ที่ 2.111/2.562 ส่วนระบบเกียร์เป็นเเบบ 1st gear : 2.615 2nd gear : 2.000 3rd gear : 1.666 4th gear : 1.444 5th gear : 1.304 6th gear : 1.208 โดยระบบจุดระเบิดเป็น Fully Digital Transistoristed เเละมีระบบการติดเครื่องยนต์เป็นเเบบ Electric เป็นรถรุ่นกลางๆ ที่เต็มไปด้วยสมรรถนะที่เเรงพอตัว

Honda CBR600RR มีเฟรมที่ได้รับการออกเเบบด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเเละมีความเเข็งเเกร่งจากวัสดุที่นำมาใช้ พร้อมกับระบบกันสะเทือนที่ทำงานได้เป็นอย่างดี โดยมีระบบห้ามล้อหน้าเป็นเเบบ Hydrolic double disc ส่วนระบบห้ามล้อหลังจะเป็นเเบบ Hydrolic disc โดยที่มียางหน้าเป็นเเบบ 120/70ZR17M/C 58W  ส่วนทางด้านยางหลังจะเป็นเเบบ 180/55ZR17M/C 73W โดยมีหน้าปัดเเสดงข้อมูลการขับขี่เป็นเเบบดิจิตอลรุ่นล่าสุดที่เเสดงข้อมูลได้อย่างครบถ้วน TFT เเบบ Full Color โดยมี 3 โหมด มี Winglet  เพิ่มที่เเฟริ่งหน้า ทำให้ควบคุมรถได้เป็นอย่างดี ส่วนโคมไฟหน้าก็สวยงามเเละเต็มไปด้วยเทคโนโลยีล่าสุด พร้อมไฟเลี้ยงสองข้าง ส่วนไฟท้ายก็ดีไซน์ได้อย่างสวยงามเเละเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ แฮนด์จับก็สวยงามเเละกระชับมือ ส่วนกระจกมองหลังสองข้างก็ใหญ่ชัดจัดเเละสอดรับกับกระจกบังลม โดยตัวบอดี้นั้นมีสีแดง GRAND PRIX RED ให้เลือกเพียงเเค่สีเดียว

ราคาของ Honda CBR600RR นั้นเคาะราคาขายในประเทศไทยออกมาที่ 549,000 บาท ถือว่าเป็นราคากลางๆ ที่น่าสนใจอีกรุ่นของฮอนด้า
#50


รถจักรยานยนต์เเนว Heritage อีกรุ่นของบีเอ็มดับเบิลยู ที่มีความคลาสสิก ดั้งเดิม และเปี่ยมไปด้วยความหลงใหลอย่าง BMW R nineT นั้นถือว่าเป็นรถที่มีประวัติยาวนานมากกว่า 90 ปี เเต่ยังคงพัฒนามาอย่างต่อเนื่องทั้งในเรื่องของสมรรถนะเเละรูปลักษณ์ ด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ที่นับได้ว่าเป็นไอคอนของรถคันนี้ผสมผสานเข้ากับสัดส่วนดั้งเดิมได้อย่างกลมกลืนยิ่งขึ้นในตอนนี้ อีกทั้งยังทำให้คุณขับขี่บนถนนลาดยางมะตอยได้ทรงพลังมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

BMW R nineT มาพร้อมกับมิติตัวรถที่ลงตัว ด้วยความยาว 2,106 มิลลิเมตร ความสูงเหนือกระจก 1,240 มิลลิเมตร ความกว้างเหนือก้านมือจับ 865 มิลลิเมตร ส่วนระดับความสูงของที่นั่งเมื่อมีน้ำหนักด้านข้างตัวรถอยู่ที่ 805 มิลลิเมตร ค่าความกว้างของช่วงขาเมื่อมีน้ำหนักด้านข้างตัวรถอยู่ที่ 1,785 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมัน 18 ลิตร ปริมาณน้ำมันสำรองประมาณ 3 ลิตร น้ำหนักรวมบรรทุกสูงสุดอยู่ที่ 430 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักรวมบรรทุกอยู่ที่ 209 กิโลกรัม

ในส่วนของสมรรถนะเครื่องยนต์นั้น BMW R nineT มาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบบ็อกเซอร์สี่จังหวะสองลูกสูบที่ระบายความร้อนด้วยอากาศ/น้ำมันพร้อมเพลาลูกเบี้ยวสองเพลา วาล์วเรียงแนวรัศมีสี่ตัวต่อลูกสูบ และเพลาถ่วงดุลกลาง (Central Balance Shaft) ที่มีรู x ช่วงชัก อยู่ที่ 101 มิลลิเมตร X 73 มิลลิเมตร ความจุเครื่องยนต์ขนาด 1,170 ซีซี ให้กำลัง 109 แรงม้า ที่ 7,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 116 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที ส่วนอัตรากำลังอัดอยู่ที่ 12.0:1 มีการเตรียมเชื้อเพลิงเป็นเเบบการฉีดเชื้อเพลิงเข้าท่อไอดีแบบอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนการควบคุมการปล่อยไอเสีย เป็นเเบบ เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยา 3 ทางที่มีระบบควบคุมตามมาตรฐานการปล่อยไอเสีย EU-5 สามารถทำความเร็วสูงสุดได้เกิน 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง เเละมีอัตราการบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 5.1 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนสารคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาตามมาตรฐาน WMTC อยู่ที่ 119 กรัม/กิโลเมตร โดยประเภทน้ำมันที่ใช้จะเป็นเเบบ น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว Super(plus), ค่าออกเทน 95-98 (RON) (กำลังการผลิตติดตั้งที่ 98 RON) ส่วนไดชาร์จมีขนาด 720 วัตต์ เเละแบตเตอรี่ 12 โวลต์ / 12 แอมแปร์-ชั่วโมง ไม่ต้องบำรุงรักษา ระบบคลัทช์เป็นคลัตช์แห้งแผ่นเดียว ทำงานด้วยระบบไฮดรอลิค  มีเกียร์เเบบ ชุดเกียร์สับเปลี่ยนด้วยเฟืองขบหกสปีดที่มีชุดเฟืองเฉียง พร้อมระบบขับเคลื่อนเเบบเพลาขับ

BMW R nineT
มีเฟรมเเบบเฟรมสี่ส่วนประกอบด้วยเฟรมหน้าและหลังสามส่วน ชุดส่งกำลังเครื่องยนต์แบบรองรับเครื่องยนต์ เฟรมของที่นั่งซ้อนท้ายที่ถอดออกได้สำหรับการใช้งานคนเดียว ทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนหน้าเเบบก้ามปูแบบกลับหัวแบบเทเลสโคปิกที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางท่อมาตรฐานขนาด 46 มิลลิเมตร ส่วนระบบกันสะเทือนล้อหลังเป็นเเบบ สวิงแขนเดี่ยวอะลูมิเนียมหล่อพร้อม BMW Motorrad Paralever, สปริงโช้คอัพกลาง, พรีโหลดของสปริงที่ปรับได้อย่างต่อเนื่องด้วยล้อหมุน, ระบบรองรับความหน่วงในการคืนตัวแบบปรับได้ โดยที่ระยะระหว่างล้อหน้าและล้อหลังอยู่ที่ 120 มิลลิเมตร / 120 มิลลิเมตร ระยะฐานล้ออยู่ที่ 1,487 มิลลิเมตร มุมแคสเตอร์อยู่ที่ 107.9 มิลลิเมตร มุมแฮนด์รถอยู่ที่ 63.2 องศา โดยล้อเป็นเเบบ ซี่ลวด โดยขนาดล้อหน้าอยู่ที่ 3.50" x 17" ขนาดล้อหลังอยู่ที่ 5.50" x 17" โดยที่ขนาดยางล้อหน้าอยู่ที่ 120/70 ZR 17 ส่วนขนาดยางล้อหลังอยู่ที่ 180/55 ZR 17 ระบบเบรคล้อหน้าเป็นเเบบจานเบรกคู่, เส้นผ่านศูนย์กลาง 320 มิลลิเมตร, คาลิเปอร์แบบตายตัว 4 สูบ ส่วนระบบเบรคล้อหลังเป็นเเบบจานเบรกเดี่ยว, เส้นผ่านศูนย์กลาง 265 มิลลิเมตร, คาลิเปอร์เบรกลอยตัวสูบคู่ พร้อมระบบ ABS Pro ของ BMW Motorrad โคมไฟหน้าทรงกลมดวงเดียวเเบบคลาสสิคพร้อมเทคโนโลยีไฟ LED ที่ทันสมัยตรงตามรูปแบบไฟหน้าแบบคลาสสิก นอกจากนี้ยังอยู่ในซีรีส์และช่วยให้มั่นใจถึงมุมมองที่ดีขึ้น โดยไม่ว่าคุณจะขับรถอยู่ที่ใดก็ตาม ส่วนหน้าปัดแบบวงกลมคู่สุดคลาสสิกจอแสดงผลแบบแอนะล็อกสำหรับความเร็วและเซ็นเซอร์ความเร็วนั้นแสดงคุณลักษณะเฉพาะของบริเวณขับขี่ ส่วนหม้อพักไอเสียนั้นไม่เพียงแค่เติมเต็มรูปลักษณ์โรดสเตอร์ตามแบบฉบับเท่านั้น แต่ยังมอบเสียงที่สมบูรณ์แบบให้อีกด้วย ตัวบอดี้มี 3 เฉดสีให้เลือกกันทั้งสีดำ Black storm metallic, สีดำ Night Black Matt/Aluminium Matt เเละสีขาว Mineral white metallic/Aurum

สนราคาของ BMW R nineT นั้นเคาะราคาเริ่มต้นออกมาที่ 869,000 บาท